เอเบเรชี่ เอเซ่ ไม่ใช่ตัวแทน แต่คือคนที่จะส่งให้ วิลเฟร็ด ซาฮา พัฒนาขึ้นไปอีกเลเวล?

เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่าน คริสตัล พาเลซ ปราบ ลีดส์ ยูไนเต็ด ของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ไปด้วยสกอร์ 4-1 และแม้รูปเกมทีมของ รอย ฮอดจ์สัน จะไม่ได้เหนือกว่า ลีดส์ ยูไนเต็ด มากมายอย่างที่สกอร์แสดงออก แต่ต้องยอมรับว่าผู้เล่นของ “ปู่รอย” มีความเด็ดขาดกว่ามาก ชมควรแล้วกับ 3 แต้ม

คีย์แมน 2 ในชัยชนะนัดนี้ของ พาเลซ ต้องยกให้ เอเบเรชี่ เอเซ่ ตัวสร้างสรรค์เกมจอมทักษะที่เพิ่งย้ายมาจาก ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส และ วิลเฟร็ด ซาฮา ตัวเก่งประจำทีม

ซาฮา เป็นที่ต้องการของสโมสรใหญ่ๆ มากมาย และแสดงออกถึงความต้องการจะย้ายทีมอย่างชัดเจน การดึงตัว เอเซ่ มาจึงเปรียบเสมือนการวางแผนระยะยาวของ พาเลซ ซึ่งหากมองที่สไตล์การเล่นถือว่าเป็นการวางตัวตายตัวแทนที่ตรงจุดมากๆ

ทว่าเมื่อ ซาฮา ยังอยู่กับทีม การจะดอง เอเซ่ ไว้ที่ม้านั้งสำรองคงเป็นการเสียของเปล่าๆ นี่จึงน่าจะเป็นเหตุผลที่ฤดูกาลนี้ ปู่รอย ลองดัน ซาฮา ไปเล่นกองหน้าคู่กับ จอร์แดน อายิว แล้วส่ง เอเซ่ ลงสร้างเกมทางริมเส้นฝั่งซ้าย

ในเกมเมื่อคืน พาเลซ มาตั้งรับในระบบ 4-4-2 บริเวณครึ่งสนาม ไม่มีความพยายามที่จะเพรสซิ่งสูง แต่จะรักษาพื้นที่ ดึงให้ ลีดส์ ให้เล่นกับบอล จากนั้นค่อยหวังใช้สปีดของ ซาฮา และ อายิว โต้กลับ

แม้เกมรับจะไม่ใช้จุดแข็งของเขา แต่ เอเซ่ ก็ยังขยันลงไปรักษาตำแหน่งในแดนตนเอง จบเกมด้วยสถิติสกัดบอลสำเร็จ 5/5 ครั้ง (เยอะสุดในเกม) ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในแดน พาเลซ และ 3 ครั้งเกิดขึ้น ณ พื้นที่ริมเส้นฝั่งซ้าย

สถิติสกัดบอลสำเร็จของ เอเบเรชี่ เอเซ่ ในเกมพบ ลีดส์ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตาม เอเซ่ ยังมีข้อบกพร่องในเกมรับเช่นการยืนตำแหน่งเพื่อปิดช่องจ่ายคู่แข่ง หรือการบีบแย่งบอลในที่แคบ ลีดส์ จึงขึ้นเกมทาง เอเซ่ ได้หลายครั้งอย่างเช่นประตูของ แพทริค แบมฟอร์ด หรือลูกก่อนหน้านั้นที่ VAR ตัดสินว่าล้ำหน้าแบบไม่ค่อยมีเหตุผลนัก…

แต่ถึงจะอย่างนั้น เอเซ่ ยังสามารถทดแทนจุดอ่อนเกมรับได้ด้วยลูกฟรีคิกสุดสวย

ในนาทีที่ 41 เอเซ่ ขยับเข้ามาเชื่อมเกมด้านใน เปิดพื้นที่ให้ ซาฮา ฉีกหนีตัวประกบลงไปรับบอล และจ่ายทะลุผู้เล่น ลีดส์ 4 คนไปให้ แบ็คซ้าย แพทริค ฟาน อานโฮลท์ ที่สปีดสวนทางไปด้านหน้า

ฟาน อานโฮลท์ ได้ครอสจากสุดเส้นหลังและโชคดีบอลแฉลบคู่แข่งผ่าน เมส์ลิเยร์ ที่เสาแรกไปแบบงงๆ ช่วย พาเลซ ทิ้งห่าง 3-1 ในเวลาสำคัญก่อนพักครึ่ง

ทั้งหมดเริ่มจากการเคลื่อนที่สลับตำแหน่งของ เอเซ่ และการออกบอลอันเฉียบคมของ ซาฮา

ซาฮา เอาชนะเกมเพรสซิ่งของ ลีดส์ ด้วยการเคลื่อนที่และจังหวะออกบอลที่แม่นยำ

ทุกคนรู้ว่า ซาฮา เป็นพวกเลี้ยงกินตัวระดับต้นๆ ของ พรีเมียร์ลีก แต่สิ่งที่เราเห็นจากประตู 3-1 คือ ซาฮา ไม่จำเป็นต้องเริ่มเล่นจากตำแหน่งกราบซ้าย ให้ขยับจากด้านบนลงมาพลิกบอลก็อันตรายไม่แพ้กัน

รูปแบบการเคลื่อนที่ระหว่าง เอเซ่ และ ซาฮา ดูไหลลื่นเป็นเพราะทั้งคู่มีสไตล์ธรรมชาติที่สอดคล้องกัน ตัวอย่างเช่น เอเซ่ มีทักษะเล่นที่แคบดี จึงได้เปรียบคู่แข่งเวลาตัดเข้ามาต่อบอลด้านใน ในขณะที่ ซาฮา เองก็เก็บบอลดี เลี้ยงได้ แถมรูปร่างสูงใหญ่ สามารถบังบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพในจังหวะลงมาเชื่อมเกมต่ำ

นาทีที่ 69 ซาฮา ฉีกของมารับบอลริมเส้นฝั่งซ้าย โดยมีมิดฟิลด์เติมเข้าไปในกรอบเขตโทษ ดึงแนวรับ ลีดส์ ออกจากตำแหน่ง เปิดช่องให้ ซาฮา จ่ายแอสวิสต์ให้ อายิว เป็นง่ายๆ เป็นประตูปิดเกม 4-1

ด้วยทรัพยากรในทีมที่จำกัด คงเป็นไปได้ยากที่ ฮอดจ์สัน จะปรับทีมมาเน้นเกมรุกมากขึ้น หมายความว่าฤดูกาลนี้เราคงได้เห็น ซาฮา รับบทกองหน้าและ เอเซ่ ยืนริมเส้นฝั่งซ้ายต่อไปเรื่อยๆ

ในฤดูกาล 19/20 ซาฮา ยิงใน พรีเมียร์ลีก ได้เพียง 4 ประตูกับอีก 3 แอสซิสต์ แต่มาปีนี้ที่เขาได้เล่นใกล้ประตูคู่แข่งมากขึ้น ซาฮา ซัดไปแล้ว 5 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์จาก 8 นัดที่ลงสนาม

ซาฮา อาจหงุดหงิดที่เขาอดย้ายทีม แต่หากมองในแง่ดี การอยู่กับ พาเลส ต่อในฤดูกาลนี้เปรียบเสมือนโอกาสในการพัฒนาตนเองอีก 1 ปีเต็มๆ โดยไม่ต้องแบกรับแรงกดดันเหมืนหากเล่นให้สโมสรใหญ่ๆ

ถ้าเขาสามารถรักษามาตรฐานนี้ต่อไปเรื่อยๆ เชื่อว่า ซาฮา จะกลายเป็นศูนย์หน้าที่ครบเครื่องที่สุดใน ยุโรป ได้แน่นอน ส่วน เอเซ่ ถือว่าโชคดีที่ ซาฮา ยังอยู่กับทีมต่อไป เพราะนั่นเท่ากับเขาไม่ต้องเจอกับแรงกดดันในฐานะตัวแทน ซาฮา และ พาเลซ ควรดีใจที่พวกเขามีเพชรเม็ดงามในทีมอีกคนหนึ่ง